“เซลล์เทรนเนอร์ ผู้ให้ด้วยหัวใจ”

เซลล์เทรนเนอร์ เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งงานที่ ฮอต!!! สุดๆในปีนี้ หลายคนอยากที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้ แต่ยังไม่มีโอกาส บางคนมองว่าอาชีพนี้เป็นกันง่ายๆ ชีวิตดีดี๊ แต่งตัวสวยๆหล่อๆ ขึ้นครองความโดนเด่นบนเวที
วันนีทีมงานฮิวแมน เทค ได้รับโอกาสดีๆ ในการพบ พูดคุย วิทยากรที่นับถือ ที่คล่ำวอดในวงการเซลล์เทรนนิ่ง สำหรับธุรกิจประกันชีวิต และประกันวินาศภัยมามากกว่า 20 ปี กับคุณพิษณุ ดวงสุทธา หรือพี่นุ “ผู้ให้” ที่พร้อมจะให้โดยไม่หวังผลตอบแทน เพราะการให้คือความสุข
อะไรที่ทำให้ผู้ชายคนนี้มีความสุขกับการเป็น “ผู้ให้” อะไรที่ทำให้ผู้ชายคนนี้อยู่กับวงการเทรนนิ่งมามากกว่า 20 ปี เราติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจ และประกันใจนี้ไปด้วยกัน
สวัสดีค่ะ รบกวนแนะนำตัวเองนิดหน่อยค่ะ?
สวัสดีครับพี่ชื่อพิษณุ ดวงสุทธา หรือเรียกพี่นุ ก็ได้ครับปัจจุบันเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายอบรมให้กับบริษัทประกันครับ มีหน้าที่อบรมให้กับ ฝ่ายขาย ธนาคาร บริษัทด้านการเงิน รวมถึงลีสซิ่ง ด้วยครับ ซึ่งตัวพี่เองก็ทำงานในสายประกันมาน่าจะเกือบ 20 ปีแล้วครับ
พี่นุเริ่มต้นการเป็นวิทยากรได้อย่างไงหรอค่ะ?
พี่เริ่มต้นอาชีพวิทยากรจากการทำงานในบริษัทประกันชีวิตครับ แล้วก็มาจาก “Passion” ด้วย ส่วนตัวที่พี่เป็นคนชอบสอน ชอบให้ ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว มีความสุขในการขึ้นพูด การได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆของ มหาวิทยาลัย รวมถึงเป็นติวเตอร์สอนหนังสือ ติวหนังสือให้กับเพื่อนๆ อย่างเช่น วิชาสถิติ วิชาเศษฐศาสตร์ด้วย โดยพี่เริ่มจากพื้นฐานเหมือนหลายๆคนครับ เริ่มต้นที่แผนกฝึกอบรม ทำงานในหลายๆอย่าง ทั้งงานบริหารตารางอบรม งานด้านการจัดการหลักสูตร โดยเป้าหมายของพี่ คือการได้ขึ้นพูดในฐานะวิทยากร พี่ใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ในการได้ขึ้นพูดในฐานะวิทยากรเป็นครั้งแรก โดยเป็นหลักสูตรพื้นฐานๆ ง่ายๆ ก่อนครับ
มาคำถามวัยรุ่นๆ กันบ้างนะค่ะ ขอ “3 คำที่บ่งบอกความเป็นพี่นุค่ะ”?
3 คำเลยหรอครับ! สำหรับพี่ การเป็น “ผู้ให้” บ่งบอกความเป็นตัวพี่ที่ได้ดีครับ เพราะการทำหน้าที่ วิทยากร การโค้ช คือการเป็นผู้ให้ ไม่ว่าจะเป็น การให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ให้โอกาสในการพัฒนาความสามารถ การให้ความรู้สึกดีๆซึ่งกันและกัน ให้มิตรภาพกับเพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งการทำผลงานที่ดีที่สุดให้กับเจ้านาย ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดจากความเป็น “ผู้ให้” ก่อนครับ

ระยะหลังนี้ คำว่า Coach ถูกใช้บ่อยๆ ต่างกันไหมคะ กับคำว่า Trainer แล้วพี่นุคิดว่าตัวเองมีความเป็น Trainer หรือ Coaching มากกว่ากันค่ะ?
พี่มองว่าทั้งสองสิ่งเป็นสิ่งที่ใกล้กันนะ จะว่าเหมือนกันก็ไม่ใช่ จะว่าต่างก็ไม่เชิง ในความคิดพี่ว่า พี่เป็น Trainer แล้วก็ มีความเป็น Coach ในคนๆเดียวกันครับ มันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ว่าเราต้องการอะไร เพราะว่าทั้ง Trainer และ Coach มันก็เกี่ยวข้องกับทุกคนที่เราต้องการให้เขาพัฒนาตนเองทั้งคู่ ดังนั้นพี่คิดว่ามันมีบริบทที่ต่างกันและก็เหมือนกัน Trainer ถ่ายทอดเพื่อให้ผู้เข้าฟังพัฒนาตัวเอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้เข้าฟังว่า เขาสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้มาน้อยเพียงใด แต่การเป็น Coach มันต้องเข้าไปถึงบริบทของผู้เรียนจริงๆ มันจะใกล้ชิดกว่า เราต้องมีความพยายามเข้าไปในตัวผู้เรียน ว่าผู้ฟังมีความสามารถด้านไหน เพื่อจะดึงศักยภาพด้านดีของเขาออกมาให้มากที่สุด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า Coach คือคนที่ช่วยปลดล็อคตัวผู้เรียนให้เข้าใกล้สิ่งที่ผู้ฟังต้องการ หากต้องการผลลัพท์ที่หนักหน่วง Coach น่าจะชัดเจนกว่า การเป็น Coach เหมาะกับผู้เข้ารับฟังที่กลุ่มไม่ใหญ่มาก คนที่เป็น Coach ก็ต้องเชียวชาญเรื่องนั้นจริงๆ ในภาษาอังกฤษเองก็มีคำขยายความของคำว่า Coach อยู่โดยเขาใช้คำว่า “Coach is people to unlock their potential”
อะไรคือ แรงบัลดาลใจ ของพี่นุในการทำงานค่ะ?
แรงบันดาลใจของพี่ ชัดเจนที่สุดคือการมีเป้าหมายในชีวิตครับ คนเราต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร เมื่อมีเป้าหมายก็จะมีแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อน แล้วทำงานออกมาให้ดีที่สุดครับ
แล้วเป้าหมายในชีวิตของพี่นุคืออะไรค่ะ?
เป้าหมายของพี่จะเริ่มจากการ Set ก่อนว่า “ชีวิตต้องการอะไร” เพราะทุกวันนี้พี่เลือกที่จะ “มีความสุขจากการทำงาน” พี่ต้องทำงานให้มีผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะท้ายที่สุดเวลาติดตามผลกับผู้เข้ารับการอบรมแล้ว ผู้ที่เข้ารับการอบรม เติบโต พัฒนาขึ้น ประสบความสำเร็จ สิ่งที่ทำให้พี่มีความสุข แล้วมีแรงบันดาลใจที่จะทำงานต่อไป ทุกวันนี้บางคนคิดว่ามีเงินแล้วจะมีความสุขเลยทำให้พวกเขาไม่ได้มีแรงบันดาลใจที่จะทำงาน แต่มีแต่แรงขับเคลื่อนที่จะต้องทำให้ได้ เพื่อที่จะให้ตัวเองมีเงินเยอะๆเพื่อที่จะมีความสุข แต่พี่กลับคิดว่า “ความสุขตางหากที่ทำให้เรามีเงิน”
ถ้าพูดถึง ไอดอล ของพี่นุ ในการการพูด วิทยากร หรือการโค้ช ของพี่นุคือท่านใดค่ะ?
แต่สำหรับบุคคลที่เป็นต้นแบบ เป็นแบบอย่าง ของพี่ครับ คือ”พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” รัชกาลที่ 9 ครับ เพราะพระองค์ท่านไม่ทรงดำรัสอะไรมาก แต่เลือกที่จะทำให้เห็นว่าสิ่งที่ท่านพระราชดำรัสมานั้น ชัดเจน และทำได้จริงๆ ผู้คนที่ได้รับฟังพระราชดำรัสท่านแล้วรู้สึกดี ซาบซึ้ง แล้วก็พี่ก็รู้สึกว่าราชดำรัสของท่านนั้แต่ละครั้งนั้นนถูกกลั่นกรองมาอย่างมาก และสวยงาม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

พี่นุคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการยืนอยู่ตรงนี้ในฐานะโค้ชค่ะ?
สำหรับพี่ความยากที่สุดขอการเป็นโค้ช คือ ต้องเป็นคนที่พร้อมจะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพราะว่า โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก รวมเร็ว เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ เนื้อหาเก่าๆอาจจะใช้ไม่ได้แล้ว โค้ชจึงต้องทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ฉะนั้นยิ่งเราสอนคนมากเท่าไหร่เรายิ่งต้องพัฒนาตัวเองมากเท่านั้น
อีกอย่างหนึ่งคือ การบริหารเวลา ลูกศิษย์หรือผู้เข้ารับการอบรมมีคำถามอยากปรึกษาสิ่งต่างๆ เราต้องแบ่งเวลาซึ่ง ละเอียดอ่อนและสำคัญ ที่จะบริหารตัวเองและครอบครัวให้พอดี

พี่นุรับมือกับสถานการณ์ในห้องบรรยาย ในสถานการณ์ที่คับขัน อย่างไรค่ะ?
มันก็มีหลายอย่างนะครับ ที่เป็นเหตุการที่ควบคุมไม่ได้ เหตุการณ์ที่เกิดจากเรา เหตุการณ์ที่เกิดจากผู้เข้ารับการอบรม หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมครับ เช่น อาจจะเกิดจากเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ มันไม่เป็นใจ โปรเจคเตอร์ไม่ทำงาน ไฟล์พรีเซนเตชั่นเสีย ซึ่งเราต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ และถ่ายถอดออกมาด้วยจิตวิญญาณ ถ้าไฟล์เสีย ทุกอย่างที่เราต้องการถ่ายทอดออกไปอยู่ในหัวเราทั้งหมด ใช้ไวท์บอร์ด และสิ่งอยู่ในขณะนั้น เราก็สอนได้
หรือแม้แต่กระทั้งปัจจัยที่มาจากผู้เข้ารับการอบรม การคัดค้านในสิ่งที่เราสอนเป็นสิ่งที่ท้าทาย และละเอียดอ่อนในการรับมือ เหตุการณ์อาจเป็นไปได้ว่าเกิดการโต้เถียงกันจนปานปลายเป็นการทะเลาะกัน หรือเลือกที่จะไปเป็นในเชิงแลกเปลี่ยนความคิดกันเพราะว่าบางทีมุมมองเขากับมุมมองเราก็ไม่ใช่ว่าจะเหมือนกันเสมอไป และก็ไม่ใช่เสมอไปว่าสิ่งทีเรารู้ นั้นถูกต้องหรือเป็นอย่างนั้นจริงๆ “หากเราฟังเขา เขาก็พร้อมที่จะเปิดใจฟังเราเช่นกัน”
วิทยากรกับการเดินทาง!
เป็นเรื่องปกติครับเพราะเป็นการยากที่จะได้สอนอยู่กับที่ครับ เพราะเราต้องมองเป้าหมายขอองค์กร เพราะการให้ทุกคนเดินทางมาฟังวิทยากรมันเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายครับ เพราะพี่เดินทางไปยังที่ต่างๆ เพื่อบรรยายมาตลอด
ดูแลตัวเองยังไงหรอคะ ทั้งเดินทาง ทั้งเรียนรู้ ทั้งต้องถ่ายถอดสิ่งต่างๆให้ผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา?
พี่ว่ามันขึ้นอยู่กับการบริหารเวลาครับ มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัว หรือการทำงาน ยังไงซะเราก็ต้องทำให้ Work Life Balance เพราะถ้าชีวิตในการทำงานสำเร็จแต่ครอบครัวพังมันก็ไม่ใช่นะครับ พี่ว่าทุกคนต้องดูแลตัวเอง วันนี้คุณยังเป็นวัยรุ่นคุณอาจจะยังไหว วันหนึ่งประสบการณ์สูงขึ้น อายุมากขึ้นก็ต้องดูแลตัวเอง ไม่ว่าสุขภาพ การใช้เสียง ถ้าท้ายที่สุดแล้วทุกคนไม่ดูแล ร่างกาย ก็ไม่ไหวนะ คุณก็จะเป็นให้สิ่งดีๆกับผู้อื่นไม่ได้

ไหนๆวันนี้ โอ๊ตก็มีโอกาสดีๆ ได้พูดคุยกับพี่นุแล้ว จริงๆแล้ว Bancassurance คืออะไรหรือค่ะ?
Bancassurance คือช่องทางการขายช่องทางหนึ่งครับ ส่วนใหญ่สินค้าก็มีหลายแบบ เป็นรูปแบบธุรกิจแบบ B2B หรือ Business To Business ในแง่มุมของ Sales Trainer คือการไปสอนคนของคู่ค้า เขาไม่ใช่พนักงานของบริษัทเรา อีกทั้งเราก็ไม่ได้พูดกับลูกค้าด้วยตนเองแม้สักประโยคเดียว พี่ก็มองว่าขึ้นอยู่ที่การวางตัวของทั้ง 2 ฝ่ายครับ ยิ่งหากได้ความร่วมมือกับทาง Partner ในการวางกลยุทธ์ หรือร่วมวางแผนถึงสิ่งที่ต้องพัฒนาร่วมกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ทัศนคติ การสร้างแรงจูงใจ หรือความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ ผลที่ได้ก็จะยิ่งใหญ่ และสวยงามครับ ที่ผ่านมาช่องทาง Bancassurance เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีครับ
สุดท้ายนี้ พี่นุมองว่า บทบาทที่แท้จริงของทีมอบรมฝ่ายขาย คืออะไรค่ะ
บทบาทของเราเป้าหมายในการอบรมฝ่ายขายเพื่อสร้าง 3 สิ่ง
1.คือการสร้างความรู้ ในสิ่งที่เขาไม่รู้เช่น ความรู้ผลิตภัณฑ์ หรือความรู้ที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น เรื่องของกฏหมาย พรบ. ที่เกี่ยวข้อง
2.เมื่อมี ความรู้แล้วเราก็ต้องเสริม ทักษะ และให้ทดลองจริงด้วยการ Role play แต่การเรียนรู้ไม่ได้จบเพียงแค่ในห้องเรียน เรายังสามารถติดตามและให้คำแนะนำต่อเนื่องได้ แม้หลังจากจบคราสไปแล้วก็ตาม
3.ทัศนคติ ทำอย่างไรให้เขามีทัศนคติที่ดีกับธุรกิจประกัน กับงานที่ตนเองทำ กับตนเอง และสิ่งที่ส่งมอบให้กับลูกค้าของเขา ดังนั้นในส่วนของฝ่ายพัฒนาฝ่ายขายทำคือการพัฒนาโดยยึดอค์ประกอบหลักๆ 3 ข้อนี้ครับ
สุดท้ายนี้ ทีมงาน ฮิวแมน เทค ขอขอบพระคุณ คุณพิษณุ ดวงสุทธา ผู้อำนายการฝ่ายฝึกอบรมของธุรกิจประกันชีวิต(ที่ขอไม่เอ่ยนาม) ที่ได้สละเวลาอันมีค่า แบ่งปันความฝัน และร่วมสร้างแรงบันดาลใจกับใครหลายๆคน มีเป้าหมาย และมีความสุขกับทำเป้าหมายให้สำเร็จ
คำว่า “ให้” ยังสะท้อนก้องอยู่ในหัวใจของพวกเรา ฮิวแมน เทค
Special Thanks
ผู้ให้สัมภาษณ์: คุณพิษณุ ดวงสุทธา
วันที่ให้สัมภาษณ์: 7 พฤษภาคม 2561
ผู้สัมภาษณ์: ศิโรรัตน์
อำนวยการ: ปรีชา คุ้นวานิช
เครดิตรูปภาพ:
https://www.pexels.com/photo/ideas-whiteboard-person-working-7369/
https://www.pexels.com/photo/adult-business-close-up-friendship-433495/
https://www.pinterest.com/pin/296252481723301998/
https://www.pexels.com/photo/person-holding-and-reading-book-during-daytime-115001/
https://www.pexels.com/photo/black-pile-of-stones-158607/