About us

Human Tech Recruitment Co., Ltd. is an independent executive search, selection, headhunting, recruitment and consulting firm based in Bangkok, Thailand. We were founded in 2017 by extensive and diversified backgrounds of co-founders who have an in-depth understanding of industries and share together the same values and believes in driving the Best Practices in Recruiting and Consulting areas and perspectives. We have a real passion for our work to build up a partnership with our clients and achieve success as well as to better approach the job opportunities for our valued candidates in order to meet staffing goals and needs along established dialogue of training and development services.

Our goal is to better match the qualified candidates with the available positions at the Right Times under a highly competitive market environment

Our vision is to become the link between the Employers and the Candidates as the Trusted Recruitment Partner and Advisor. We provide commitment and the Highest standard of work and a constant desire for continuous improvement.

มารู้จักโครงสร้างองค์กร แบบ Agile กันเถอะ

คุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องทำงานบริหารจัดการโครงการแล้วเจอปัญหาเรื่องนี้หรือไม่

ขอบเขตงานขยายร้อยทิศทาง

ควบคุมระยะเวลาเสร็จสิ้นได้ยาก

งบประมาณบานปลาย

ผลงานและ คุณภาพ ไม่ตรงต่อความต้องการของลูกค้า

ซึ้งปัญหาเหล่านี้ มักเจอได้บ่อยๆ เกิดขึ้นเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นบริหารแบบใดๆก็ตาม  เราขอนำเสนอ

 

 

Agile เป็นแนวคิดในการทำงาน ที่จะช่วยจัดความต้องการของลูกค้า ช่วยให้คุณส่งมอบความกำหนด ควบคุมงบประมาณ และ เพิ่มความพอใจของลูกค้าอีกด้วย โดยมีเทคนิคและวิธีการ การปฏิบัติงาน ที่แบ่งดำเนินโครงการออกเป็นส่วนย่อย ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมได้ สนองต่อความต้องการของลูกค้าโดยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน   เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ที่เข้ามาแทนที่แนวคิดเดิมอย่าง Waterfall

ซึ่งแต่ก่อนนี้ การทำงานแบบ Waterfall จะเป็นการวางแผน กำหนดเป้าหมาย กระจายงาน ใน step ขั้นตอนเดียว ทำให้กว่าจะได้ผลลัพธ์สุดท้าย ใช้เวลานาน เกิดเป็นปัญหาใหญ่ตามมา 2 ประการสำคัญ ได้แก่

ปัญหาเรื่องการวางแผนให้เป็นไปตามเวลา และงบประมาณ เนื่องจาก scope ของงานใหญ่ และมีการแบ่งทีมกันดูแล ทำให้ใช้เวลาในการรวบรวมงาน หรือ communicate กันระดับหนึ่ง ส่งผลให้กว่าจะสำเร็จดังเป้าหมาย

ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงทั้งภายใน และภายนอก ที่ส่งผลให้โปรเจคต้องถูกพับเก็บไป เนื่องจากเป็น scope ใหญ่ ที่วางแผนระยะยาว ทำให้เมื่อเกิดปัญหา ที่ผิดพลาดไปจากแผน ก็ไม่สามารถปรับตัว หรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนัก

แนวคิดหลักๆ ของ Agile มีดังนี้

– ทำงานเป็นทีม และมีการ Communicate กันในทีมอย่างต่อเนื่อง

– ผิดพลาดได้ และต้องแก้ให้ได้โดยเร็ว พร้อมเปลี่ยนแปลง และปรับตัวอยู่เสมอ

– ค่อยๆ พัฒนาไปทีละนิดๆ โดยมีการส่งมอบงาน และ Update กันอย่างต่อเนื่อง ไม่รอให้เกิดเป็นโปรเจคใหญ่ แล้วส่งทีเดียว

– ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ให้ความสำคัญกับ Value ให้มากที่สุด

 

หน้าที่ ของ Agile มีเพียง 3 ตำแหน่ง คือ

Product Owner คือ เจ้าของโปรเจค ทำหน้าที่ในการประเมิน Value ของงาน และจัดลำดับความชัดเจนในงานให้ทีม

Scrum Master คือ ผู้ทำหน้านี้จัดการกำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่องาน ให้งานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

Team Member คือ แต่ละคนที่รับผิดชอบ Task ต่างๆ เช่น Designer, Analyst, UX/UI เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนที่ได้รับหน้าที่ หรือ Job นั้นๆ จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ โดยตรง ทำให้งานเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

 

สรุปข้อดีของการทำงานแบบ Agile

1 ทุกฝ่ายพอใจ ลูกค้าได้เห็น product เร็วขึ้น (ไม่ต้องรอจนถึง final product) + มีช่วงเวลาให้ปรับแก้ไข requirement ส่วน developer ก็แฮปปี้ เพราะเห็นเลยว่าในแต่ละ sprint มีงานอะไรจะต้องทำบ้าง เลยสามารถจัดแจงการทำงานให้เหมาะสมได้ งานก็จะไม่ overload

2 ทุกคนในทีมเข้าใจ product เหมือนกัน สามารถทดแทนการทำงานกันได้

3 Product ออกมาเร็ว ถึงแม้จะไม่ใช่ Final Product แต่ก็สามารถเอาไปใช้งานหรือทำใหลูกค้าเห็นภาพได้ดีมากขึ้น

4 สามารถติดตามการทำงาน และประเมินผลการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ข้อจำกัดของการประยุกต์ใช้ Agile

การประยุกต์ใช้ในองค์กรใหญ่ค่อนข้างทำได้ยาก เพราะมีทีมและแผนกที่ค่อนข้างใหญ่ การให้ทุกคนยอมรับวัฒนธรรมนี้ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก รวมถึงการแตกฝ่ายต่างๆ เพื่อมารวมเป็นทีมย่อยขนาดเล็กก็ทำได้ยาก

Agile เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างซัพพอร์ตกับระบบแบบ Flat Organization เพราะฉะนั้นสำหรับบางบริษัทหรือบริษัทที่ผู้บริหารมีแนวคิดแบบ Pyramid Structure ก็จะประยุกต์ใช้ Agile ได้ยาก

Agile เป็นแนวคิดที่พัฒนามาจากบริษัท เลยเหมาะในการใช้พัฒนา Tech Product มากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะประยุกต์ใช้กับงานแบบอื่นไม่ได้ ทาง Human tech ก็มีการประยุกต์ใช้กับทีมที่ทำงานด้านMarketing เหมือนกัน เพียงแต่ต้องใช้เวลาและต้องประยุกต์จากหลักการเดิมไปค่อนข้างเยอะ

 

ทำไม human tech ถึงนำเสนอเรื่องนี้ละ

ระบบการทำงานหรือโครงสร้างแต่ละที่ต้องใช้ความเร็วในการดำเนินงาน มีผลต่อพนักงานทั้งหมด ระบบงานอาจจะดึงประสิทธิภาพของพนักงานได้ไม่เต็มที่ ความเคลียด กดดัน ปัญหา 108 บลาๆ ซึ่งแนวคิดแต่ละที่ วิถีทางต่างกันออกไปไม่เหมือนกันซ้ะทีเดียว ถ้าสิ่งที่วางแผนมันไม่เป็นอย่างที่คิดละ เราจึงเสนอเรื่องนี้ เพื่อเป็นกระบอกเสียง หาหนทางที่จะไปต่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จ เพราะเวลาของคุณมันแสนจะน้อย เวลาของคุณมีจำกัด เวลาของคุณมันคือของคุณ จงอย่าเสียเวลาไปกับชีวิตคนอื่นที่ไม่เห็ฯค่าคุณ อย่าไปเสียเวลาเพียงเพราะว่ากฏเกณฑ์ จงอย่าปล่อยให้เสียงคนอื่นมากลบเสียงในใจของคุณ จงอย่ากลัวในสิ่งที่ไม่เคยเห็น และ จงกล้าหาญออกเผชิญสิ่งที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก

brandinside

coraline

Network Training Center

 

หากใครยังไม่รู้จักเรา คลิ๊ก

 

สำหรับคนที่กำลังมาหางาน คลิ๊ก

 

สามารถคอมเม้นติชมร่วมพูดคุยกับเราได้ด้านล่างเลยครับ

งานขายของคนรุ่นใหม่

ติดตาม รับชม เรื่องราวการหางานของ “ต๋อง” และการเริ่มต้นอาชีพ “งานขายของคนรุ่นใหม่” ได้ที่นี้

ติดตามพวกเราได้ที่

You Tube Channel : @humantech

Facebook Fanpage : @humantechrecruitment

Line@ : @humantech

โทรเลย : 02 026 3624

เคล็ด “ไม่” ลับ ในการสอบตัวแทน / นายหน้า ประกันชีวิต

อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี และจรรยาบรรณ ในวิชาชีพเป็นของตัวเองเช่นกัน ไม่ต่างกับอาชีพทรงคุณวุฒิอื่นๆที่มีบทจรรยาบรรณวิชาชีพ อย่างเช่น จรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ จรรยาบรรณวิชาชีพทนาย หรือ จรรยาบรรณวิชาชีพครู

และทราบหรือไม่ว่า จากรายงานสถิติการสอบตัวแทน/นายหน้า บุคคลธรรมดา (ทั้งประเทศ) ประจำปี พ.ศ. 2560 มีผู้สอบผ่าน ทั้งสิ้น 61,481 คน คิดเป็น 41.49% คนเท่านั้น จากผู้สมัครสอบทั้งปีที่มากถึง 215,892

วันนี้ เราจะมาเปิดเผย เคล็ดลับ โดยเริ่มจาก ส่วนของโครงสร้างข้อสอบที่สำคัญ ที่หากทำผิดเพียง 3 ข้อ คุณก็จะสอบตกอยู่ดี ถึงแม้ว่าจะทำในส่วนอื่นได้คะแนนสูงก็ตาม นั้นก็คือ “จรรยาบรรณและศีลธรรมของตัวแทนประกันชีวิต”

สำหรับส่วนนี้ ข้อสอบจะมีทั้งหมด 10 ข้อ โดยทั้ง 10 ข้อมีคำถามครบทุกๆข้อของ “จรรยาบรรณและศีลธรรมของตัวแทนประกันชีวิต” ดังนั้น เราจะมาเปิดเผยเคล็ดลับการจำทั้ง 10 ข้อ แบบสั้นๆ ง่ายๆ และทรงประสิทธิผล นั้นก็คือ

“ซื่อ บริ ลับ”
“เผย เกิน ลด”
“สละ ทับถม”
“ศึกษา ศีลธรรม”

1. ซื่อสัตย์
2. บริการดี
3. รักษาความลับของลูกค้าและบริษัท (ยังไม่ได้ซื้อกรมธรรม์ ยังไม่นับเป็นลูกค้านะจ๊ะ)
4. เปิดเผยข้อเท็จจริงของลูกค้าต่อบริษัท (เพื่อความสมบูรณ์ของกรมธรรม์)
5. ไม่ขายเกินความสามารถในการจ่ายของลูกค้า
6. ไม่ลดค่าบำเหน็จ (หริอไม่ผลตอบแทนจากการขายของเรานั้นเอง)
7. ไม่แนะนำให้สละ หรือยกเลิกกรมธรรม์เดิม แล้วมาซื้อใหม่
8. ไม่ทับถม ให้ร้าย เพื่อนร่วมอาชีพ หรือบริษัทอื่น
9. หมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ (จะเรียนอะไรเพิ่มก็ได้)
10. มีศีลธรรม อันดี (ศีล๕ เลยจ้า)

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม “จรรยาบรรณและศีลธรรมของตัวแทนประกันชีวิต 10 ข้อ” ส่วนใครเวลาน้อย ขอเพิ่มเคล็ดลับอีกนิดในการพิจารณาเลือกคำตอบที่ใช่
สำหรับการสอบข้อเขียน ให้เราพิจารณาผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เพียง 3 กลุ่มเท่านั้น นั้นก็คือ

ต่อผู้เอาประกัน “ลูกค้า”
ต่อบริษัทประกัน “บริษัท”
ต่อตัวแทน / นายหน้าด้วยกัน “เพื่อนร่วมอาชีพ”

เอาหล่ะ เมื่อได้หลักเช่นนี้แล้วก็ลองหาข้อสอบที่มี ปิดเฉลย แล้วลองทำกันดูได้เลย

 

ถ้าเพื่อนๆมีเคล็ดลับดีๆ เพิ่มเติม หรือ มีคำถาม สงสัย หรือไม่เข้าใจเฉลยข้อสอบ ของการสอบตัวแทน / นายหน้า ประกันชีวิต ส่งคำถามมาได้ที่ inbox Facebook ของเรา หรืออีเมล์มาได้ที่ Preecha.k@humantechrecruitment.com หากตอบได้เราจะตอบ หากเราตอบไม่ได้เราจะหาคำตอบมาให้

 

ขอให้ทุกท่านโชคดีในการสอบ และยินดีต้อนรับสู่วิชาชีพที่มีจรรยาบรรณ

 

ขอบคุณเคล็ดลับดีๆ จาก ท่านวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่เคยประสิทธิ์วิชามาให้ ณ ครั้งที่ทำงาน ที่บมจ.ไทยคาร์ดิฟ ประกันชีวิต

ผู้เขียน : งานดี VS เงินดี (The Incremental)

 

 

จรรยาบรรณและศีลธรรมของตัวแทนประกันชีวิต 10 ข้อ

  1. มีความซื่อสัตย์ต่อผู้เอาประกันภัย บริษัท และเพื่อนร่วมอาชีพ
  2. ให้บริการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และชี้แจงให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงสิทธิและหน้าที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย
  3. รักษาความลับอันไม่ควรเปิดเผยของผู้เอาประกันภัย และของบริษัทต่อบุคคลภายนอก
  4. เปิดเผยข้อความจริงของผู้เอาประกันภัยในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ เพื่อการพิจารณารับประกัน หรือเพื่อความสมบูรณ์แห่งกรมธรรม์
  5. ไม่เสนอแนะผู้ขอเอาประกันภัยทำประกันภัยเกินความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย หรือเสนอขายนอกเหนือเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์
  6. ไม่ลด หรือเสนอที่จะลดค่าบำเหน็จ เพื่อเป็นการจูงใจให้เอาประกันภัย
  7. ไม่แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยสละกรมธรรม์เดิมเพื่อทำสัญญาใหม่ หากทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียผลประโยชน์
  8. ไม่กล่าวให้ร้ายทับถมตัวแทน หรือบริษัทอื่น
  9. หมั่นศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพเพิ่มเติมอยู่เสมอ
  10. ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมประเพณีอันดีงาม ทั้งธำรงไว้ซื่อเกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณธรรมแห่งอาชีวปฏิณาณ

ผมเป็นคนหนึ่งในอีกหลายๆคนที่เริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจประกันชีวิต ด้วยกระดาษใบแรกคือ “จรรยาบรรณ 10 ข้อ” ที่ได้รับจากหัวหน้า เพื่อให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพในวิชาชีพ และผมยังจดจำทุกข้อได้อย่างขึ้นใจอยู่จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าตอนนี้ ที่กำลังพิมพ์ทุกๆตัวอักษร จะรู้สึกเหมือนเป็นคุณลุง ที่กำลังเล่าถึงเรื่องราวในอดีต และยึดมั่นกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ ในบางครั้ง

แต่อยากชี้ประเด็นให้เห็นว่า หากจรรยาบรรณ ถูกใช้อย่างจริงจัง การขายและดูแลลูกค้าก็จะมีศักยภาพ หรือเมื่อต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ลองหันกลับมามองพื้นฐานของวิชาชีพ แล้วคุณอาจค้นพบ วิธีใหม่ๆด้วยตนเอง

อ้างอิง : http://www.oic.or.th/sites/default/files/moral/morality_agent.pdf

ผู้เขียน : งานดี VS เงินดี (The Incremental)

ขอบคุณภาพสวยๆจาก : Pexel